นักสูบมือใหม่หลายคนอาจจะสงสัยและมีคำถามว่า พอตคืออะไร แบ่งออกเป็นกี่ประเภท แล้วพอตไฟฟ้ากับบุหรี่ไฟฟ้าเหมือนกันหรือไม่ โดยจริง ๆ แล้ว Pod System คือ บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ที่แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Pod Open System vs Pod Close System ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ละประเภทก็ตอบสนองการใช้งานที่แตกต่างกัน แล้วเราเหมาะกับแบบไหน ไปหาคำตอบกัน
Pod System คืออะไร
พอตไฟฟ้า คือ บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการสูบมากขึ้น เมื่อเทียบกับบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นก่อน ๆ โดยมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ใช้งานง่าย ราคาถูก และไม่ต้องดูแลรักษามาก พร้อมทั้งมีน้ำยาให้เลือกหลากหลายกลิ่น และที่สำคัญ สามารถช่วยให้เลิกบุหรี่ได้จริง หลาย ๆ คนจึงหันมาใช้ระบบนี้กันมากขึ้น
ซึ่งแต่เดิมนั้น บุหรี่ไฟฟ้าได้มีการคิดค้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2473 โดย โจเซฟ โรบินสัน (Joseph Robinson) ที่ประเทศเยอรมนี เขาได้ร่างแบบสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ในการพ่นควัน โดยไม่ได้เกิดจากการเผาไหม้ แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยนั้นที่ไม่เอื้ออำนวย จึงยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจริง และต่อมาได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนออกมาเป็นบุหรี่ไฟฟ้าที่เราเห็นอย่างในปัจจุบัน โดยได้มีการพัฒนาระบบการสูบตามลำดับ ดังนี้
- Cigalike ระบบรุ่นบุกเบิก มีลักษณะคล้ายบุหรี่ปกติ แต่จะมีเครื่องมือที่ทำให้เกิดไอ และความร้อนเพิ่มเข้ามา ช่วยเพียงแค่แก้ความอยากบุหรี่ แต่ยังคงไม่สามารถช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ และยังมีกลิ่น และรสชาติเพียงกลิ่นเดียว
- eGos มีรูปทรงที่คล้ายบุหรี่ เรียกกันว่า Vape Pen มีอุปกรณ์ตัวถังที่สามารถถอดออกได้ สามารถเติมน้ำยาแบบ E-liquid หรือ e-juice ที่มีระดับนิโคติน หรือกลิ่นต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง และเริ่มมีการพัฒนาประสิทธิภาพในการช่วยให้เลิกบุหรี่ได้
- Mods เป็นระบบรุ่นถัดมา ที่มีรูปทรงขนาดใหญ่กว่า eGos แต่มีสีสันที่สวยงามกว่า ผู้ใช้สามารถปรับแต่งแรงดันไฟได้ตามที่ต้องการ และเป็นระบบที่ให้ควันที่เยอะ
- Pod System ระบบบุหรี่ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดที่มีในปัจจุบัน คล้ายกับรุ่น eGos แต่มีการใช้งานง่าย และสวยงามมากขึ้น ให้ควันที่พอดี น้ำยาที่ใช้เป็นประเภท Salt Nic ที่มีความเข้มข้นสูง (30-60 mg) ที่ให้ความรู้สึกเหมือนสูบบุหรี่จริง และร่างกายได้รับนิโคตินในปริมาณที่เพียงพอ ทำให้สามารถเลิกบุหรี่ได้จริง
ส่วนประกอบ
โดยส่วนประกอบหลัก ๆ ของ Pod System คือ
- หัวแทงค์ หรือ Pod Cartridges ที่ทำหน้าที่เป็นตัวเก็บและเติมน้ำยา ความจุน้ำยาส่วนใหญ่จะมีปริมาณประมาณ 2-5 ml ซึ่งรูปทรงก็จะมีผลกับฟีลการสูบและรูลมด้วยเช่นกัน ถ้าหากมีการใช้งานนาน ๆ เกิดการแตก หรือชำรุดเสียหาย ก็สามารถเปลี่ยนใหม่ได้ (ใช้ได้เฉพาะรุ่นที่ตรงกันเท่านั้น)
- คอยล์พอต หรือ Coil ทำหน้าที่เป็นตัวสร้างควันและไอ โดยมีขดลวดความร้อนและสำลีติดอยู่ด้วยกันภายในคอยล์ ซึ่งสำลีจะทำหน้าที่อุ้มน้ำยาไว้ และเมื่อเราใช้งาน แบตเตอรี่จะส่งกำลังไฟมาที่ขดลวด จนเกิดความร้อน ก็จะทำให้สำลีที่อุ้มน้ำยาไว้ เดือดจนเกิดการระเหยของไอน้ำขึ้นมา ถือว่าส่วนประกอบสำคัญที่จะกำหนดฟีลการสูบในแบบต่าง ๆ ของผู้สูบ
ตัวเครื่อง
โดยประกอบด้วยส่วนหลัก ๆ 2 ส่วน คือ
- แบตเตอรี่หรือถ่านบุหรี่ไฟฟ้าที่ติดมาในตัวเครื่อง ซึ่งจะมีความจุมากหรือน้อยก็แล้วแต่ขนาดและการออกแบบของผู้ผลิต
- ส่วนของการปรับไฟ ซึ่งไม่มีค่าตายตัว ผู้สูบสามารถปรับไฟได้ตามความชอบของแต่ละคน โดยในส่วนนี้ จะประกอบด้วย ชิป ระบบประมวลผล และปุ่มกด
ขั้นตอนการใช้งานของ Pod System
- ดึงหัวพอตออกจากตัวเครื่อง
- ดึงคอยล์เก่าออกทางด้านล่างของหัวพอต
- นำคอยล์ใหม่มาเติม โดยการหยอดน้ำยาให้ชุ่มพอประมาณ
- ใส่คอยล์ใหม่กลับเข้าไปตรงที่เดิมให้แน่น แล้วเติมน้ำยาในช่องเติมน้ำยา
ข้อดีของพอตไฟฟ้า
ถ้าหากใครยังสงสัยว่าพอตไฟ้าจะดีจริงหรือไม่ เราขอสรุปข้อดีต่างๆ ไว้ให้คุณได้พิจารณาและตัดสินใจว่าจะใช้ดีหรือไม่
- มีขนาดเล็ก กะทัดรัด และน้ำหนักเบา สามารถพกพาไปข้างนอกได้อย่างสะดวก
- มีรูปลักษณ์ที่สวยสะดุด มีการออกแบบที่ทันสมัย สีสันสวยงาม มีให้เลือกหลายเฉดสี
- สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและต่อเนื่อง โดยมีการชาร์จไฟไม่ถึง 2 ชั่วโมง
- ใช้งานง่าย เมื่อเทียบกับระบบแบบเดิม สามารถเติมหรือเปลี่ยนหัวน้ำยาได้ทันที
- สามารถเปลี่ยนน้ำยา เพื่อลองกลิ่นใหม่ ๆ ได้ตลอด และมีกลิ่นให้เลือกอย่างหลากหลาย
- ช่วยให้เราประหยัด เพราะสามารถใช้งานได้หลายครั้ง
- มีความปลอดภัยและดีต่อร่างกายมากกว่า เพราะทำให้ร่างกายอิ่มนิโคตินได้ไวขึ้น
- สามารถใช้งานง่าย เพียงแค่เติมน้ำยา และเปลี่ยนคอยล์ก็สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ทันที
- สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และดูแลรักษาได้ไม่ยาก
- ปริมาณควันไม่เยอะจนเกินไป และให้ฟีลสูบที่นุ่มละมุน ไม่แสบคอ
- ผู้ใช้จะไม่ได้รับสารพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ เหมือนบุหรี่จริง
- เหมาะสมกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
- เหมาะสำหรับคนที่กำลังอยากเลิกบุหรี่
Pod Open System vs Pod Close System
แบ่งออกเป็น 2 ประเภทของบุหรี่ไฟฟ้า ได้แก่ Open System และ Close System ซึ่งมีความแตกต่างกัน โดยเราจะต้องศึกษาและเลือกให้เหมาะกับสไตล์การสูบของตัวเอง
Pod Open System คืออะไร?
เรียกว่า พอตไฟฟ้าระบบเปิด เป็นบุหรี่ไฟฟ้าที่ต้องเติมน้ำยาเข้าไปใน Pod Cartridges อย่างสม่ำเสมอ เมื่อน้ำยาใกล้จะหมด เราก็สามารถเติมน้ำยาเข้าไปที่หัวน้ำยาได้โดยตรง และสามารถเติมได้เท่าที่เราอยากจะใช้
ซึ่งสำหรับพอตระบบนี้ เราสามารถปรับฟีลและอรรถรสในการสูบได้เหมือนบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไป โดยแต่ละรุ่นจะมีการผลิตคอยล์ออกมาหลากหลาย ทำให้เราสามารถเลือกปรับค่าโอห์มและปรับกำลังไฟได้ มีทั้งแบบแบตเตอรี่ในตัวและแบบใส่ถ่านแยก ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ดี
ข้อดีของ Pod Open System
ทีนี้ เราลองมาดูข้อดีของพอตระบบเปิดกันบ้าง ว่ามีข้อดีอย่างไร เหมาะกับสไตล์การสูบของเราแบบไหน
- มีขนาดเล็ก สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกตามสไตล์พอตไฟฟ้า
- ทำความสะอาดได้ง่าย เพราะมีการแบ่งส่วนประกอบชัดเจน ทำให้เราสามารถถอดประกอบ เพื่อทำความสะอาดได้สะดวกกว่าบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไปมาก
- มีอายุการใช้งานที่มากกว่าบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไป โดยเฉพาะบางรุ่นที่เป็นประเภทพอตระบบเปิด ที่มีแบตเตอรี่แยกออกมา ก็จะช่วยป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมได้ดี และสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า
- สามารถรีดควันออกมาได้เยอะกว่าประเภทพอตใช้แล้วทิ้ง จึงเหมาะสำหรับสายเล่นควัน
- สามารถเปลี่ยนคอยล์และปรับกำลังไฟได้ ทำให้เราสามารถเลือกฟีลสูบได้ตรงกับความต้องการมากกว่า
- ในบางรุ่น ให้ฟีลสูบแบบ MTL และ RDL
- บางรุ่นสามารถรองรับน้ำยา Freebase และ Salt Nic
- มีน้ำยาให้เลือกมากกว่า เพราะมีคุณสมบัติในการเติมน้ำยาลงแทงค์เองได้
- ในบางรุ่น สามารถปรับรูลมได้ละเอียด ส่งผลให้เราเลือกฟีลการสูบได้ตรงใจมากยิ่งขึ้น
- แต่ละแบรนด์ มีการผลิตระบบนี้ออกมาให้เลือกมากมายในตลาดบุหรี่ไฟฟ้าพอต
Pod Close System คืออะไร?
พอตไฟฟ้าระบบปิด จะมีลักษณะตรงข้ามกับพอตระบบเปิด โดย Pod Cartridges จะเป็นแบบสำเร็จรูป มีน้ำยามาให้เรียบร้อยพร้อมสูบทันที ไม่สามารถเติมน้ำยาเองได้ และไม่สามารถเลือกค่าโอห์มของคอยล์ได้ เมื่อน้ำยาหมดก็ดึงหัวอันเก่าออก และใส่อันใหม่เข้าไป ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
ดังนั้นจึงมีการใช้งานที่ง่าย หากเป็นนักสูบมือใหม่ก็สามารถใช้งานได้ โดยที่ไม่ต้องอ่านคู่มือการใช้งาน ไม่ต้องห่วงเรื่องการเติมน้ำยา หรือต้องปรับปรับกำลังไฟเท่าใด เพราะผู้ผลิตจะกำหนดทุกอย่างมาให้คุณอยู่แล้ว มีการคำนวณค่าโอห์มที่เหมาะสมกับน้ำยาที่ผลิตมา ดังนั้นจึงต้องปรับฟีลสูบได้เอง จึงเหมาะสำหรับนักสูบที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว
กล่าวได้ว่าระบบนี้เป็นแบบสำเร็จรูป ที่พร้อมใช้งาน ใช้งานเสร็จเรียบร้อยก็สามารถทิ้งและเปลี่ยนใหม่ได้เลย คุณสามารถเลือกรสชาติตามที่คุณต้องการ จนบางคนเรียกว่าพอตไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
ข้อดีของ Pod Close System
ข้อดีของพอตระบบปิดนั้นมีมากมายเลยเชียว โดยเราขอสรุปมาให้คุณ ดังนี้
- มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา พกพาสะดวกตามสไตล์พอตไฟฟ้า ไม่ต่างจากพอตระบบเปิด
- สามารถทำความสะอาด ดูแลรักษาได้ง่ายและมีอุปกรณ์ชิ้นส่วนที่น้อยกว่า
- มีอายุงานที่นาน ยืดอายุการใช้งานได้ดี เพราะไม่มีปัญหาการรั่วซึม และคอยล์ไหม้
- สามารถใช้งานได้ทันที เพราะไม่ต้องใส่คอยล์ หรือหยอดน้ำยาให้เสียเวลา
- ถอดประกอบง่าย เพียงแค่เปลี่ยนหัวน้ำยาเท่านั้น
- เมื่อใช้น้ำยาหมด ก็สามารถทิ้งได้เลย
- ราคาถูก หาซื้อพอตบุหรี่ไฟฟ้าแบบนี้ได้ทั่วไป เพราะได้รับความนิยมสูง
- มีปัญหาการชำรุด หรือเสียน้อยมาก
- มีน้ำยา Salt Nic ให้เลือกหลากหลายกลิ่น
สรุป
เป็นบุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Pod Open System ที่เราต้องเติมน้ำยาเอง และสามารถปรับกำลังไฟได้ ทำให้เราสามารถเลือกฟีลสูบได้ตรงกับความต้องการมากกว่า ส่วน Pod Close System ที่เน้นการอำนวยความสะดวก สามารถพกพา ใช้งานง่ายในทุกสถานการณ์ แถมเมื่อใช้น้ำยาหมดก็สามารถทิ้งและเปลี่ยนใหม่ได้เลย เรียกได้ว่า สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การสูบของทุกคน