ปัญหาการติดบุหรี่ เป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานแล้ว แม้ว่าบุหรี่จะเป็นสิ่งที่ช่วยคลายเครียดให้กับผู้สูบ แต่แลกมากับการทำลายสุขภาพ โดยเฉพาะปอด ระบบทางเดินหายใจ นำไปสู่โรคมะเร็ง ซึ่งไม่ได้ทำร้ายแค่ผู้สูบเท่านั้น แต่ยังทำร้ายคนรอบข้างอีกด้วย การสูดเอาควันบุหรี่ หรือที่เรียกว่าบุหรี่มือสอง ก็ทำให้สุขภาพแย่ลงเช่นกัน
ผู้สูบบุหรี่หลายคนตระหนักได้ถึงปัญหา และข้อเสียของบุหรี่ แต่เมื่อติดบุหรี่แล้ว การจะเลิกบุหรี่เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ต้องใช้ความตั้งใจเป็นอย่างมาก เพราะสารนิโคตินในบุหรี่เป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง การจะเลิกบุหรี่จึงต้องใช้เวลา จะเลิกแบบหักดิบไม่ได้ เพราะอาจมีผลข้างเคียงตามมา โดยในบทความนี้เราจะมารู้จักกับการติดบุหรี่ อันตรายของบุหรี่ และที่สำคัญ คือ วิธีเลิกสูบบุหรี่ ซึ่งจะช่วยเป็นแนวทางให้แก่ผู้ที่อยากเลิกบุหรี่
สาเหตุของการติดบุหรี่
ก่อนจะศึกษาเกี่ยวกับวิธีเลิกบุหรี่ เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สาเหตุของการติดบุหรี่ คืออะไร ? โดยเป้าหมายของการสูบบุหรี่ คือ การกระทำเพื่อให้ได้รับสารนิโคตินเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งนิโคตินนั้นสามารถเสพได้ผ่านการสูบบุหรี่ โดยนิโคตินมีคุณสมบัติในการช่วยให้ผู้สูบ
- กระตุ้นให้อารมณ์ดี ลดอารมณ์หงุดหงิด
- ช่วยเพิ่มสมาธิ สามารถโฟกัสทำงานได้
- หัวสมองโล่ง ปลอดโปร่ง
- ลดอาการซึมเศร้า
ซึ่งภาวะกดดันจากการงาน และสิ่งต่าง ๆ ทำให้คนพยายามที่จะหาวิธีช่วยลดความเครียด เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวัน สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้นิโคตินเป็นทางเลือกที่หลายคนเลือกใช้
อย่างไรก็ตามนิโคตินนั้นเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสารจำพวกแอลคาลอยด์ และสามารถสกัดได้จากพืช โดย นิโคตินในบุหรี่จะอยู่ในรูปแบบของยาสูบที่อยู่ในมวนบุหรี่ ซึ่งการเสพนิโคตินจะส่งผลต่อร่างกาย และสมอง ซึ่งมันอาจจะมีประโยชน์ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น แต่การเสพในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้เสพติด และนำไปสู่ผลเสียต่าง ๆ ต่อร่างกาย เช่น ระบบหัวใจ ระบบหลอดเลือด และระบบประสาทส่วนกลาง
ดังนั้นสามารถสรุปได้สาเหตุของการติดบุหรี่นั้นเกิดจากสารนิโคตินที่อยู่ในบุหรี่ ทำให้คนมีความต้องการสูบบุหรี่มากขึ้นเรื่อย ๆ
อันตรายของบุหรี่
กระบวนการทำงานของบุหรี่มวนทั่วไป คือ การเผาไหม้ของยาสูบที่ม้วนอยู่ ทำให้เกิดควัน โดยผู้สูบจะสามารถเสพนิโคตินผ่านควันที่เกิดจากการเผาไหม้ของยาสูบ
จริงอยู่ที่นิโคติน เป็นสารเสพติดที่อันตราย แต่อันตรายของบุหรี่มวนธรรมดา ซึ่งจะส่งผลเสียต่อร่างกาย คือ กระบวนการเผาไหม้ของยาสูบ เพราะควันบุหรี่ไม่ได้มีเพียงแค่สารนิโคตินเท่านั้น แต่ยังมีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซที่จะเกิดจากการเผาไหม้ต่าง ๆ ไม่ว่าจากท่อไอเสียรถยนต์ ควันจากโรงงาน รวมทั้งบุหรี่มวน โดยก๊าซชนิดนี้มีอันตรายอย่างร้ายแรงต่อระบบลำเลียงเลือด และระบบหายใจ ทำให้บุหรี่มวนธรรมดา มีความอันตรายอย่างมากทั้งต่อตนเอง และคนรอบข้าง
6 แนวทางวิธีเลิกบุหรี่
เมื่อเราได้ทราบถึงอันตรายของบุหรี่มวนกันแล้ว ก็มาถึงหัวใจหลักของบทความนี้ คือ การหาวิธีเลิกสูบบุหรี่ เมื่อเราติดบุหรี่ ก็เปรียบเสมือนเราติดสารเสพติดชนิดหนึ่ง การจะเลิกให้ได้นั้น ต้องใช้เวลา และความพยายามอย่างมาก ควรหลีกเลี่ยงการเลิกบุหรี่แบบหักดิบ เพราะอาจมีผลข้างเคียงตามมา หรือที่เรียกว่า อาการลงแดง ซึ่งอาจทำให้อาการอยากนิโคตินรุนแรงยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นวิธีเลิกบุหรี่ที่ดีที่สุด คือ ค่อยเป็นค่อยไป
โดยเรามี 5 วิธี เพื่อเป็นแนวทางให้คนที่อยากเลิกบุหรี่แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี ซึ่งวิธีที่กำลังจะนำเสนอ ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน ซึ่ง 6 วิธีมีอยู่ด้วยกัน ดังนี้
การเคี้ยวหมากฝรั่ง
การที่คนติดบุหรี่นั้นเกิดจากความต้องการเสพนิโคติน ถ้าเราสามารถหาวิธีการเสพสารนิโคตินได้โดยใช้วิธีอื่น ก็สามารถที่จะลดความเสี่ยงจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ได้ โดยมีนวัตกรรมการเสพสารนิโคตินที่น่าสนใจ คือ หมากฝรั่งนิโคติน
การเคี้ยวหมากฝรั่ง แต่เดิมคุณสมบัติเดิมของมัน ก็คือ ช่วยป้องกันฟันผุ และลดความเครียด โดยการเคี้ยวหมากฝรั่งนิโคติน จะช่วยให้เราได้รับสารนิโคตินเข้าสู่ร่างกายได้อย่างช้า ๆ ระหว่างเคี้ยวจะช่วยลดความอยากนิโคตินเรื่อย ๆ โดยหมากฝรั่งนิโคติน จะมีอยู่ 2 ขนาด คือ 2 มิลลิกรัม และ 4 มิลลิกรัม หากสูบบุหรี่น้อยกว่า 24 มวนต่อวัน ขนาดที่แนะนำ คือ 2 มิลลิกรัม และหากสูบมากกว่า 24 มวนต่อวัน ขนาดที่แนะนำ คือ 4 มิลลิกรัม
โดยการเคี้ยวหมากฝรั่งนิโคติน ควรเคี้ยวทุกครั้งเมื่อมีอาการอยากสูบบุหรี่ หรือทุก ๆ 1 – 2 ชั่วโมง สำหรับขนาด 2 มิลลิกรัม ไม่เคี้ยวเกินวันละ 30 ชิ้น และขนาด 4 มิลลิกรัม เคี้ยวไม่เกินวันละ 15 ชิ้น หรือเพื่อความแน่ใจ ก็สามารถที่จะปรึกษาแพทย์ถึงปริมาณการใช้หมากฝรั่งนิโคตินได้
การกำหนดเวลาสูบ
สำหรับคนที่สูบบุหรี่จัด มีปริมาณการสูบบุหรี่เป็นจำนวนมากในหนึ่งวัน การกำหนดเวลาสูบบุหรี่ก็เป็นอีกแนวทางในการช่วยเลิกบุหรี่ได้ โดยจากปกติอาจจะสูบวัน 30 มวน เราควรตั้งตารางเวลาขึ้นมาว่าจะสูบบุหรี่ตอนช่วงเวลาไหนบ้างในแต่ละวัน ซึ่งต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด จากนั้นค่อย ๆ ปรับความถี่การสูบบุหรี่ต่อวันให้น้อยลงเรื่อย ๆ
ซึ่งการกำหนดเวลาสูบ และปรับความถี่ในการสูบให้น้อยลงเรื่อย ๆ เป็นอีกวิธีช่วยเลิกบุหรี่ที่จะช่วยปรับสภาพร่างกายให้ต้องการนิโคตินน้อยลง จนสามารถเลิกได้ในที่สุด
การตั้งเป้าหมายที่มีแรงจูงใจ
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ความตั้งใจ และความพยายามเป็นสิ่งสำคัญในการเลิกบุหรี่ ดังนั้นวิธีช่วยให้เลิกบุหรี่ที่ดีที่สุด คือ การตั้งเป้าหมาย สร้างแรงจูงใจที่อยากให้ช่วยเลิกบุหรี่ โดยบุคคลรอบข้าง ครอบครัว เพื่อน ก็เป็นส่วนสำคัญที่สามารถให้กำลังใจ ช่วยผลักดัน ให้ผู้สูบมีแรงใจอยากเลิกสูบบุหรี่ได้
การหลีกเลี่ยงสิ่งเร้า
จากข้อก่อนหน้า เราต้องมีความพยายาม ในการหักห้ามใจที่จะเลิกบุหรี่ให้ได้ อีกข้อที่ควรทำ คือ หลีกเลี่ยงที่จะพบสิ่งเร้า สิ่งยั่วยุที่ทำให้อยากสูบบุหรี่ เช่น หลีกเลี่ยงกิจกรรม หรือการไปยังสถานที่ที่เป็นเขตสูบบุหรี่เเละหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่มีคนสูบบุหรี่ ซึ่งคนรอบข้างเองก็ต้องช่วยเหลือ หากรู้ว่าเพื่อนรอบข้างพยายามเลิกบุหรี่ ก็ให้ไปสูบบุหรี่ในที่ลับตาคน อย่าทำให้ตัวเองเป็นสิ่งเร้า ยั่วยุ ให้คนอื่นอยากสูบบุหรี่
การดื่มน้ำในปริมาณที่พอควร
เมื่อเราพยายามที่จะเลิกสูบบุหรี่ ปรับลดปริมาณสารนิโคตินที่เข้าสู่ร่างกายได้แล้ว ถัดมาคือ การลดสารพิษ หรือสารนิโคตินที่อยู่ในร่างกาย โดยเราสามารถทำได้ด้วยการ ดื่มน้ำในปริมาณที่มากพอสมควร ประมาณ 8 – 10 แก้วต่อวัน ซึ่งน้ำที่ดื่มเข้าไปจะช่วยขับสารพิษต่าง ๆ ในร่างกายออก รวมถึงสารนิโคตินที่สะสมอยู่ในร่างกายด้วย
การใช้บุหรี่ไฟฟ้า
แต่สำหรับคนที่ยังต้องการเสพสารนิโคติน แต่หมากฝรั่งนิโคติน หรือแผ่นแปะนิโคติน ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ วิธีเลิกสูบบุหรี่ด้วยการเลือกใช้บุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นอีกวิธีที่ควรลอง เรียกอุปกรณ์ชนิดนี้ว่าพอตเป็นนวัตกรรมบุหรี่แบบใหม่ ที่คนรุ่นใหม่เริ่มนิยมหันมาใช้กันอย่างมากขึ้นในปัจจุบัน เราสามารถรับสารนิโคติน ในรูปแบบของการสูบบุหรี่ได้เช่นเดิม ด้วยควัน และกลิ่น แต่เป็นควันที่อันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน และกลิ่นก็ไม่เหม็นเหมือนบุหรี่มวน
โดยกลไกการทำงานของบุหรี่ไฟฟ้า นิโคตินที่เข้าสู่ร่างกาย จะมาในรูปของควัน แต่ควันของบุหรี่ไฟฟ้านั้นเกิดจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของนิโคติน ได้รับความร้อนจากบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าระเหยกลายเป็นไอน้ำ ซึ่งแตกต่างจากบุหรี่มวนธรรมดา ที่ควันได้จากการเผาไหม้ของยาสูบ ดังนั้นควันจากบุหรี่ไฟฟ้าจึงไม่มีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ทำให้สามารถรับสารนิโคติน โดยไม่มีมะเร็งปอดเป็นของแถม
นอกจากนี้แล้วควันของบุหรี่ไฟฟ้ายังไม่มีกลิ่นเหม็นที่รบกวนคนรอบข้าง เราสามารถที่จะเลือกกลิ่นของควันได้จาก น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้ เช่น กลิ่นผลไม้ ทำให้สามารถได้รสชาตินุ่ม กลิ่นที่ดี สามารถสูบได้ง่าย
ซึ่งหัวใจสำคัญของการเลิกบุหรี่ด้วยบุหรี่ไฟฟ้า คือ การปรับปริมาณความเข้มข้นของนิโคตินในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หากผู้ใช้มีเป้าหมายที่จะเลิกบุหรี่ด้วยบุหรี่ไฟฟ้า สามารถทำได้โดยเปลี่ยนน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ให้ความเข้นข้นของนิโคตินน้อยลงเรื่อย ๆ ค่อย ๆ ปรับสภาพร่างกายให้ต้องการสารนิโคตินน้อยลง
ซึ่งการปรับสูตรน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้น เป็นหลักการเดียวกับการกำหนดเวลาสูบบุหรี่ แต่ทำได้ง่ายขึ้น เพราะถึงแม้จำนวนการสูบยังเท่าเดิม แต่ปริมาณนิโคตินที่เข้าสู่ร่างกายจะค่อย ๆ น้อยลง ตามสูตรของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
สรุป
บุหรี่มวนเป็นสิ่งที่สร้างผลเสียให้กับร่างกาย เพราะปัจจัยที่ทำลายสุขภาพจากบุหรี่มวน ไม่ใช่เพียงแค่นิโคติน แต่ยังเป็นก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จากการเผาไหม้ของยาสูบด้วย ดังนั้นการเลิกบุหรี่ให้ได้ จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ อย่างไรก็ตามการเลิกบุหรี่ก็สามารถทำได้ยาก หากใครที่ยังตัดใจการเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้ อย่างน้อยการปรับเปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้า จะช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งปอด และความเสี่ยงต่อระบบทางเดินหายใจได้