บุหรี่ไฟฟ้ามีกี่แบบ มีแบบไหนบ้าง ?

บุหรี่ไฟฟ้ามีกี่แบบ

สำหรับคนที่สนใจอยากจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือพอต ต่าง ๆ อาจจะเริ่มมีคำถามว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีกี่แบบซึ่งโดยหลักแล้ว ประเภทของบุหรี่ไฟฟ้าจะมีทั้งหมด 4 แบบ ที่เป็นที่นิยม 1 บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง หรือที่เรียกกันว่าพอตใช้แล้วทิ้ง แบบที่ 2 คือบุหรี่ไฟฟ้าแบบกล่อง 3 พอต (POD) และแบบสุดท้าย 4 คือ บุหรี่ไฟฟ้าแบบยิงสด

ซึ่งแต่ละแบบของบุหรี่ไฟฟ้าก็เหมาะสำหรับผู้ใช้แต่ละคนแตกต่างกันไป ซึ่งถ้าเป็นมือใหม่ที่หัดสูบบุหรี่ไฟฟ้า ทางเราแนะนำให้ลองจากพอตใช้แล้วทิ้ง หรือ พอต ธรรมดาก่อน เพราะว่าการใช้งานจะง่ายที่สุด ไม่ต้องเรียนรู้มากก็สามารถเริ่มสูบได้เลย

ความแตกต่างของแต่ละประเภทของบุหรี่ไฟฟ้าแต่ละแบบ แตกต่างกันอย่างไรบ้าง

คนสูบบุหรี่ไฟฟ้า

หลังจากรู้จักประเภทของบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว ต้องมารู้จักกับความแตกต่างของบุหรี่ไฟฟ้าแต่ละประเภทต่อได้เลย โดยตัวอย่างเช่น บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ก็จะตามชื่อเลยคือเป็นบุหรี่ไฟฟ้าที่ออกแบบมาให้ใช้ได้ครั้งเดียวแล้วทิ้งได้เลย ครั้งเดียวในที่ว่านี้คือเมื่อสูบจนน้ำยาหมด สามารถทิ้งบุหรี่ไฟฟ้าประเภทนี้ไปได้เลย ซึ่งแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์ก็จะมีจำนวนคำที่สูบได้แตกต่างกัน สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าแบบถัดมาก็คือ พอต (POD) ซึ่งบางแบบจะเป็นพอตเปลี่ยนหัว ตัวนี้จะต่างกับแบบใช้แล้วทิ้งตรงที่ หัวของพอต สามารถเปลี่ยนน้ำยาได้ ออกแบบมาให้ชาร์จและใช้ได้เรื่อย ๆ มีขนาดเล็กกว่าบุหรี่ไฟฟ้าแบบกล่อง ขนาดพอ ๆ กับแบบใช้แล้วทิ้ง พกพาสะดวก

อีกแบบนึงก็คือ บุหรี่ไฟฟ้าแบบกล่อง ตัวนี้จะ Advance ขึ้นมาอีกหน่อยในการใช้งานจะยุ่งยากกว่านิดนึงคือต้องทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ให้ดี แต่ข้อดีคือสามารถปรับแต่งได้ระดับนึง ส่วนสุดท้ายที่เป็นบุหรี่ไฟฟ้าแบบยิงสด ตัวนี้จะยากที่สุด เหมาะกับคนที่เล่นบุหรี่ไฟฟ้ามาสักพัก ตัวยิงสดนี้จะปรับแต่งได้ค่อนข้างเยอะ และสามารถปรับให้กลิ่น ที่ออกมาจากน้ำยาเข้าถึงได้ดีกว่า หรือการปรับให้แรง ให้เบา อันนี้สามารถเล่นได้มากที่สุด

บุหรี่ไฟฟ้ามีกี่แบบ แบบไหนบ้าง ควรลองแบบไหนดี

ประเภทบุหรี่ไฟฟ้า

สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ หลังจากพอจะรู้คร่าว ๆ แล้วว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีกี่แบบ แตกต่างกันยังไง ต่อไปควรจะลงลึกสักนิดนึงเกี่ยวกับ ส่วนประกอบของบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อการใช้งานในรูปแบบที่ถูกต้อง

1. พอต (POD)

พอต ถือว่าเป็นแบบที่ได้รับความนิยมสูงในช่วงนี้ เพราะมีจุดเด่นคือการพกพา ซึ่งจะออกแบบมาให้พกพาง่ายมาก ๆ ใส่ในกระเป๋ากางเกง หรือ ห้อยคอก็สะดวก ผู้หญิงหรือผู้ชายที่ไปเที่ยวและไม่อยากพกของเยอะ สามารถห้อยตัวนี้ได้เลยทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักสูบกลางคืน และที่สำคัญ เจ้าตัวพอตนี้บางตัวสามารถเปลี่ยนหัวได้ ทำให้สามารถเลือกกลิ่น หรือว่าเลือกรสชาติที่ต้องการได้ง่าย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ผู้ใช้งานมาก สำหรับเจ้าตัวนี้

2. บุหรี่ไฟฟ้าแบบกล่อง

บุหรี่ไฟฟ้าแบบกล่อง ที่ทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ตัวบุหรี่ไฟฟ้าแบบกล่องนี้จะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่กว่าตัวอื่นสักหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา ถ้าคุณเป็นนักสูบที่ค่อนข้างมืออาชีพ เพราะเจ้าตัวบุหรี่ไฟฟ้าแบบกล่องนี้จะสามารถ Custom ภายในได้เยอะ เหมาะกับคนที่อยากปรับแต่งบุหรี่ไฟฟ้าของตัวเอง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งแลกมากับความใหญ่ และการดูแลรักษาต่าง ๆ เช่นการเปลี่ยนคอยล์ การเปลี่ยนน้ำยา การทำความสะอาดภายใน 

3. บุหรี่ไฟฟ้าแบบยิงสด

แบบต่อมา บุหรี่ไฟฟ้าแบบยิงสด บอกเลยว่าตัวนี้เหมาะกับผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าจนชำนาญแล้ว หรือคนที่อยากได้บุหรี่ไฟฟ้าแบบแรง ๆ ต้องตัวนี้เลย เพราะว่าการทำงานของตัวนี้จะเป็นตามชื่อของมัน คือมันจะจ่ายไฟจากตัวแบตเตอรี่ของบุหรี่ไฟฟ้าไปยังอะตอมเลยไม่ผ่านวงจรอื่น ๆ ก่อน ซึ่งจะต้องอาศัยความรู้ในการปรับค่าต่าง ๆ ในบุหรี่ไฟฟ้า แต่จะแลกมาด้วยการได้ควันแบบเต็มที่ การได้นิโคตินแบบเต็มสุด ๆ จากบุหรี่ไฟฟ้าประเภทนี้

4. บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง

สำหรับส่วนสุดท้าย บุหรี่ไฟฟ้าแบบที่ใช้ได้ง่ายที่สุด ตัวบุหรี่ไฟฟ้าใช้แล้วทิ้งอันนี้จะออกแบบมาให้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำยา เลือกรสชาติน้ำยาตั้งแต่ตอนเลือกบุหรี่ ข้อดีคือการออกแบบจะเก็บมิดชิด น้ำยาหกได้ยาก เพราะว่าเป็นระบบปิด ขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก เป็นแบบที่ขายดีที่สุดในช่วงนี้ ซึ่งในบางรุ่นที่มีจำนวนคำเยอะ ๆ ก็จะสามารถชาร์จไฟได้ เมื่อแบตหมด แต่สำหรับรุ่นเล็กที่มีคำสูบน้อยก็จะออกแบบมาให้มีแบตพอดีคำสูบเลย ซึ่งสำหรับบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จะมีข้อดีทางใช้ง่าย พกง่าย ราคาไม่แพง แต่จะปรับแต่งได้น้อย เปลี่ยนรสเมื่อสูบหมดเท่านั้น

สรุป

อ่านมาจนถึงบทสรุปแล้วผู้อ่านทุกท่านคงจะทราบประเภทบุหรี่ไฟฟ้าคร่าว ๆ กันแล้ว และได้ทราบว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีกี่แบบ แต่ละแบบต่างกันยังไงเพื่อให้สามารถเลือกรูปแบบของบุหรี่ไฟฟ้าได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด  เพราะแต่ละแบบเองก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป บุหรี่ไฟฟ้าทุกแบบต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้น หลังจากซื้อบุหรี่ไฟฟ้าไปแล้วควรศึกษาวิธีการใช้งาน เพื่อให้สามารถใช้บุหรี่ไฟฟ้าไปได้นาน ๆ และประหยัดเงินกว่าการซื้อบ่อย