ดูดพอตแล้วปวดหัว ปัญหาของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า

ดูดพอตแล้วปวดหัว

หลากหลายปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า เกิดขึ้นมาอยู่เรื่อย ๆ อันเนื่องมาจากการที่พอตไฟฟ้า ได้รับความนิยมสูงขึ้นมาก ทำให้เกิดนักสูบหน้าใหม่เข้ามา และปัญหายอดฮิตของเรา นั่นก็คืออาการดูดพอตแล้วปวดหัว ซึ่งเป็นอาการที่คนถามถึงบ่อย เพราะสาเหตุของอาการนั้นไม่ได้มีแค่อย่างเดียว แต่มีหลายสาเหตุ หลายปัจจัยที่ทำให้เราเกิดอาการนี้ขึ้น บางคนก็เรียกอาการนี้ว่า อาการเมาบุหรี่ไฟฟ้า

ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์เชิงอรรถรสที่ไว้ใช้สำหรับพกพาไปสูบได้ในหลาย ๆ โอกาส จนบางครั้งหลายคนที่ใช้งาน อาจจะไม่รู้เลยว่า อาการปวดหัวที่เกิดขึ้นกับตัวเองเกิดจากอะไร ปัจจัยภายนอกหรือไม่ ดังนั้นเราจะมาเจาะลึกถึงอาการนี้ให้ชัดเจนขึ้น เพื่อจำแนกอาการและเห็นภาพรวมของเราเอง ว่ามีพฤติกรรมการสูบยังไง และการเลือกใช้อุปกรณ์เสริมถูกต้องหรือไม่ ถ้าหากถูกต้องแล้วจะเกิดจากอะไรอีก

ตัวการหลักที่ทำให้เกิดภาวะปวดหัวเมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ต้นเหตุของอาการหลัก ๆ จะอยู่ที่สารนิโคติน ซึ่งนิโคติน จัดเป็นสารเสพติดที่อยู่คู่กับนักสูบมาอย่างเนิ่นนาน ทั้งบุหรี่ยาสูบ บุหรี่มวน จนมาถึงบุหรี่ไฟฟ้า นิโคตินจะมีฤทธิ์ทางระบบประสาท ทำให้ผู้ที่รับสารนิโคตินเข้าไปในร่างกาย มีความสุข ผ่อนคลาย นั่นเป็นสาเหตุที่ใครหลายคนเลือกสูบบุหรี่ เพราะสามารถลดความเครียดได้ ทำให้สมองปลอดโปร่ง แต่ในขณะเดียวกัน การรับเอานิโคตินในปริมาณมากจะทำให้เกิด?

ซึ่งเป็นอาการเดียวกันกับสูบบุหรี่แล้วปวดหัวเช่นกัน เพราะใช้นิโคตินเป็นส่วนประกอบเหมือนกัน ตามหลักแล้ว ร่างกายของเราจะรับสารนิโคตินได้จำกัด หรือที่เรียกว่าอิ่มนิค หากเรารับนิโคตินมากเกินไปหรือรับไปในปริมาณที่มากในเวลาอันรวดเร็ว อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้น บางครั้งหลายคนจะเรียกอาการนี้ว่า เมานิโคติน แต่หากเกิดอาการแล้วยังสูบต่อ อาจเกิดอันตรายกับร่างกายได้

สูบบุหรี่แล้วปวดหัว

ดูดพอตแล้วปวดหัว มีสาเหตุเกิดจากการกระทำอะไรบ้างของผู้ใช้งาน

พฤติกรรมการสูบ รวมไปถึงการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ถูกต้อง หรือทำความเข้าใจตัวบุหรี่ไฟฟ้าได้ไม่หมด ซึ่งตัวการหลักคือนิโคตินดังที่ได้กล่าวไปก่อนหน้า และความอันตรายในอาการเหล่านี้ ไม่ใช่แค่พอตไฟฟ้าเท่านั้นที่ทำได้ เพราะอาการดูดบุหรี่แล้วปวดหัว เป็นได้ทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่มวน โดยบุหรี่มวนจะให้โทษมากกว่า เพราะมีสารเคมีอันตราย ยิ่งทำให้แยกอาการยากไปอีก

ซึ่งสาเหตุโดยละเอียด เราได้ทำการแบ่งออกเป็น สาเหตุที่ผู้ใช้น้ำยาที่มีปริมาณนิโคตินสูงเกินความต้องการของร่างกายผู้สูบ รวมไปถึงตัวบุหรี่ไฟฟ้าที่ตัวอุปกรณ์เสริมอย่างคอยล์ และปริมาณนิโคตินไม่รองรับกัน ประกอบกับสูตรน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าบางชนิดที่ทำให้มีอาการ โดยเรียงลำดับสาเหตุของอาการไว้ดังนี้

ปริมาณนิโคตินในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไม่เหมาะกับตัวผู้สูบ

อาการปวดหัวอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่เราใช้พอตไฟฟ้าที่มีคอยล์และน้ำยาที่ถูกต้องแล้ว แต่ยังเกิดอาการเมานิโคติน ให้เราคาดการณ์ว่าสาเหตุมาจากปริมาณนิโคตินในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าก่อนเป็นอันดับแรกเลย ซึ่งน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จะมีปริมาณนิโคตินที่ต่างกัน ตั้งแต่ขนาด 35 มิลลิกรัม – 20 มิลลิกรัม ดังนั้นผู้ใช้งานน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ต้องตรวจสอบปริมาณความเข้มข้นก่อนนำมาใช้งานทุกครั้ง โดยสังเกตจากการทดลองใช้ของตัวเอง

เมื่อเราสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วรู้สึกเมาหรือมึนหัว ให้เราตรวจเช็กว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าของเรามีปริมาณนิโคตินกี่เปอร์เซ็นต์ หากเราปวดหัวเมื่อใช้น้ำยา 35 มิลลิกรัม ให้ลดมาใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคติน 30 มิลลิกรัมแทน และหากยังมีอาการอยู่ ให้ลดลงมาอีก หรือทางที่ดีควรเริ่มต้นจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีปริมาณนิโคตินที่น้อยที่สุดก่อน จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี หลีกเลี่ยงอาการเมานิโคตินได้ดี

ปริมาณนิโคตินไม่เหมาะกับคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้อยู่

ปริมาณนิโคติน จะส่งผลต่อคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าอย่างแน่นอนในแง่ของค่าความต้านทานหรือค่าโอห์ม ซึ่งคอยล์ที่ม่ค่าโอห์มต่ำ จะเหมาะกับ น้ำยา Freebase ในขณะที่ น้ำยา Saltnic จะมีค่านิโคตินที่สูง แรงไฟต่ำ แต่ใช้ค่าโอห์มที่สูง หากเราใช้น้ำยากับคอยล์ไม่ถูกต้อง จะทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างแน่นอน โดยรายละเอียดเรื่องนี้ต้องการความรู้ความเข้าใจสูง ก่อนซื้อน้ำยาจึงควรสอบถามผู้ขายทุกครั้ง

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบเย็น ทำให้เกิดอาการปวดหัว

เป็นภาวะเดียวกับการที่เราดื่มหรือกินของเย็นจัดเข้าไป จะทำให้หลอดเลือดไปกระตุ้นให้หัวหรือสมองของเราปวด บุหรี่ไฟฟ้าก็เช่นกัน แต่ในเฉพาะน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นสูตรเย็น ซึ่งมีสารเพิ่มความเย็นเข้าไป ทำให้เรามีอาการได้ แม้อาการข้างต้นอาจจะแก้ไขได้ด้วยการหยุดสูบไปสักพัก แต่หากมีอาการนานกว่าอาการเย็นขึ้นหัว ให้คาดการณ์ได้เลยว่าอาการอาจเกิดจากสาเหตุอื่น

สูบถี่หรือสูบลากเกินไป 

การสูบบุหรี่ไฟฟ้าติดต่อกัน หากสูบแล้วพัก จะไม่เกิดอาการอะไร แต่หากเน้นการสูบลากยาว หรือสูบถี่เกินไป ไม่มีการหยุดพักสูบหรือพักเครื่อง ก็อาจเกิดอาการเมาได้ ซึ่งการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ถูกต้อง จะต้องมีความเข้าใจสภาพร่างกายของตัวเอง และตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าด้วย การสูบถี่ไม่ใช่แค่ทำให้เราปวดหัวอย่างเดียว แต่จะทำให้เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้นไปอีก

วิธีแก้ เมาบุหรี่ไฟฟ้า

จะต้องแก้ได้อย่างไรบ้าง

ต้องเกริ่นก่อนว่า ร่างกายของคนเรา มีความแตกต่างกัน ทำให้ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับใครหลายคนอาจจะเป็นมากน้อยแล้วแต่บุคคล ซึ่งอาการดูดพอตแล้วปวดหัว ในหลายกรณีที่เรากล่าวมา จะมีวิธีแก้อย่างคร่าว ๆ เน้นภาพรวม ทั้งวิธีแก้ เมาบุหรี่ไฟฟ้า และการเลือกซื้อน้ำยาที่ถูกต้อง

ลดปริมาณนิโคตินหรือใช้น้ำยาที่ไม่มีนิโคตินในอัตราส่วน

สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการ คือการเริ่มต้นลดปริมาณนิโคตินก่อน หลายคนมักจะให้เราเริ่มลดปริมาณนิโคตินจากปริมาณที่สูบก่อน แต่ความเป็นจริง เราควรเริ่มต้นทดลองสูบจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีปริมาณนิโคตินต่ำสุดก่อน แล้วค่อยเพิ่มไปทีละนิด วิธีนี้จะเป็นวิธีแก้ เมาบุหรี่ไฟฟ้าได้ดีกว่า อีกทั้งยังช่วยให้เราสามารถสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินที่สูงขึ้นได้ เพราะร่างกายจะค่อย ๆ ชินกับนิโคตินเรื่อย ๆ

เลือกใช้ชนิดน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากับคอยล์ให้เหมาะสม

หากอาการเมานิโคติน แก้ยังไงก็ไม่หายสักที ให้มาลองตรวจเช็กด้านอุปกรณ์อย่างคอยล์ ว่ามีคุณสมบัติอะไร ค่าโอห์มเท่าไหร่ และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นชนิดไหน Freebase หรือ Saltnic แล้วปริมาณนิโคตินในน้ำยามีเท่าไหร่ หากจะให้ละเอียดขึ้นให้ตรวจในส่วนของอัตราส่วน PG VG ที่ช่วยให้เราประเมินได้ว่า จะปวดหัวหรือไม่

ลดพฤติกรรมความถี่ในการสูบ

แน่นอนว่าความถี่ในการสูบ จะช่วยลดอาการได้ วิธีการคือการสูบหนึ่งครั้ง เสร็จแล้วให้พักเครื่อง 10-20 วินาที แล้วจึงสูบใหม่ วิธีนี้จะช่วยยืดอายุคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าได้ด้วย เพราะความถี่ในการสูบ จะทำให้เราไม่สามารถประมาณปริมาณนิโคตินได้ง่าย เท่ากับการสูบแล้วพัก

สรุป

อาการดูดพอตแล้วปวดหัว สามารถแก้ได้ หากเราเข้าใจกลไกของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและคอยล์ รวมไปถึงสารนิโคตินที่เป็นสารประกอบหลัก ที่ทำให้เราเกิดอาการได้ สิ่งสำคัญที่สุดของเนื้อหานี้คือ หากเราไม่เข้าใจ หรือเลือกซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไม่ถูก อย่าลืมถามกับทางร้านค้าบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อขอความรู้เพิ่มเติม เพื่อเราจะได้ไม่เกิดอาการทั้งจากการสูบ และการเลือกซื้อสินค้าอีกต่อไป